ระบบกันสะเทือนแบบไดนามิกที่ดีที่สุดของ Range Rover
ใช้ประโยชน์จากการควบคุมประสิทธิภาพ SV ของคุณได้ดียิ่งขึ้น
ใช้ระบบกันสะเทือนแบบไดนามิก 6 มิติแทนที่เหล็กกันโคลงแบบเดิมซึ่งมีวงจรไฮดรอลิกที่ซับซ้อน จึงช่วยรองรับการโคลงได้ในระดับพิเศษและลดระยะพิตช์ลงได้อย่างมากเมื่อเร่งความเร็วและเบรก ความจริงคือระบบแรกของโลกระบบนี้ควบคุมการโคลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนสามารถเร่งความเร็วด้านซ้ายและขวาของยางสำหรับทุกฤดูกาลที่ติดตั้งไว้ได้ถึง 1.1g
ผลลัพธ์ที่ได้นั้นทำให้ Range Rover Sport เป็นที่นิยมมากที่สุดตลอดกาล
นอกเหนือจากน้ำหนักที่ลดลง 8 กก. เมื่อเทียบกับระบบกันโคลงแบบเดิมแล้ว ระบบกันสะเทือนไดนามิก 6 มิติ ยังตอบสนองต่อสไตล์การขับขี่ที่แตกต่างกันอย่างชาญฉลาด ทำให้คุณสามารถควบคุมได้ในลักษณะที่หลากหลาย เพื่อปรับเปลี่ยนไปตามสภาพแวดล้อมปัจจุบันของคุณ
โหมด SV ใหม่ประกอบด้วยการปรับเทียบความหนืดในการโคลง ความหนืดของพิตช์ การบีบอัด และการดึงตัวในกระบอกโช้คอันเป็นเอกลักษณ์ รวมถึงการลดระดับรถลงอีก 15 มม. เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่แบบไดนามิกจนถึงขีดสุด
และเนื่องจากยานยนต์ยังคงมีลักษณะแบนราบและการกระจายน้ำหนักทำได้ดีขึ้น กำลังเบรกจึงถูกส่งไปทางด้านหลังมากขึ้น เพื่อประสิทธิภาพในการเบรกที่ดียิ่งขึ้น
นับเป็นความสะดวกสบายและสมรรถนะในการขับขี่ในระดับสูงสุด แบบที่คุณคาดหวังได้จาก Range Rover พร้อมด้วยความโคลงและความหนืดที่ลดน้อยลงแบบที่คุณคาดหวังได้จากรถสปอร์ต
ล้อคาร์บอนขนาด 23 นิ้วคันแรก
เพื่อวัตถุประสงค์ในการลดน้ำหนัก เพิ่มความแข็งแกร่ง และลดความหนืดลง คุณลักษณะที่ก้าวข้ามขีดจำกัดของการขับขี่แบบไดนามิกทั้งหมดนั้นรวมกันอยู่ที่ล้อคาร์บอน SV ขนาด 23 นิ้วนี้แล้ว กำเนิดจากการพัฒนาและทดสอบอย่างเข้มงวดเป็นเวลา 3 ปี แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในเรื่องความพิเศษเหนือใครอย่างไม่ลดละ
โดดเด่นด้วยนวัตกรรมการออกแบบ 5 ก้านแยกที่ได้มาจากการทอชั้นผ้าคาร์บอนไฟเบอร์ที่ซับซ้อน เมื่อรวมชุดล้อเข้าด้วยกันจึงช่วยให้น้ำหนักลดลงได้ถึง 21 กก. เมื่อเทียบกับอะลูมิเนียมหล่อขึ้นรูป ซึ่งรวมถึงการเร่งความเร็วและการลดความเร็วที่ทำได้ว่องไวยิ่งขึ้น ความคล่องตัวที่เพิ่มขึ้น และการประหยัดเชื้อเพลิงได้ดียิ่งขึ้นเช่นกัน
ความแข็งแกร่งและความหนืดที่เหนือกว่าด้วยนวัตกรรมโครงสร้างคอมโพสิตคาร์บอนและกระบวนการขึ้นรูปยังหมายถึงการบังคับเลี้ยวที่เสถียรมากขึ้น นี่คือล้อที่ก้าวข้ามขีดจำกัดของการขับขี่แบบไดนามิก ซึ่งเพิ่มความเพลิดเพลินให้กับผู้ขับขี่ได้ทั้งบนถนนและนอกถนน
มีตัวเลือกการย้อมสีลายสานแบบเคลือบเงาและแบบซาติน โดยการใช้สีตกแต่งให้เข้ากับสีตัวรถของคุณ
การควบคุมดอกยาง
Range Rover Sport SV เป็น Range Rover คันแรกในประวัติศาสตร์ที่มีการตั้งค่าล้อที่แตกต่างกัน โดยการตั้งล้อหน้าที่ 285 มม. และล้อหลังที่ 305 มม. เพื่อการยึดเกาะและการควบคุมได้ดียิ่งขึ้น
ตัวเลือกยางพิเศษจากแบรนด์มอเตอร์สปอร์ตที่มีชื่อเสียงอย่างมิชลินช่วยเสริมความเงียบสงบได้อย่างแท้จริง Pilot Sport All Season 4 ขนาด 23 นิ้ว คือการออกแบบอย่างมีเอกลักษณ์ที่หาได้จาก Range Rover Sport SV เท่านั้น ซึ่งมอบระดับการยึดเกาะได้สูงกว่ายางฤดูร้อนที่ติดตั้งใน Range Rover Sport SVR รุ่นก่อนหน้าถึง 12%
ผลิตโดยใช้กระบวนการผลิตโมดูลาร์ C3M ของ มิชลิน เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่มีความเสถียรสูงสุด ยาง Pilot Sport All Season 4 ขนาด 23 นิ้ว ยังมีคุณสมบัติที่ผ่านมาตรฐานของ ETRTO (องค์กรด้านเทคนิคยางและขอบล้อแห่งยุโรป) ในหมวดการรองรับน้ำหนักบรรทุกสูง (HLC) สำหรับรถรุ่นใหม่ทุกรุ่น ซึ่งช่วยให้ยางรับน้ำหนักได้มากขึ้นด้วยความเร็วที่สูงขึ้น
เบรกคาร์บอนเซรามิก เลือก RANGE ROVER เป็นอันดับแรก
การพัฒนาร่วมกับเบรมโบ ผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยีเบรก ทำให้ Range Rover Sport SV มาพร้อมระบบเบรกเสริมพลังแบบผสมผสาน (IPB) อันเป็นเอกลักษณ์ เพื่อประสิทธิภาพการหยุดที่เหนือชั้น
ออกแบบโดยเพิ่มความทนทานต่ออุณหภูมิสูงและการกระจายความดันที่ไม่มีใครเทียมเท่า ระบบเบรกเปี่ยมประสิทธิภาพนี้บรรลุผลสำเร็จในด้านพลังงานพิเศษ ทนทานต่อการซีดจาง และลดการสึกหรอ ตรวจสอบโดยทีม SV เพื่อส่งมอบความรู้สึกของแป้นเหยียบที่ตอบสนองได้ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาของ Range Rover
ด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีฟอร์มูลาวัน การติดตั้งดิสก์เบรกขนาด 440 มม. ถือเป็นขนาดที่ใหญ่ที่สุดสำหรับการประกอบยานยนต์
จึงรับประกันถึงความแข็งแรงและความทนทานของเครื่องจักรกลได้ในระดับสูง วัสดุเซรามิกน้ำหนักเบาของเบรกแต่ละชิ้นยังเสริมด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ที่แทรกด้วยชั้นแรงเสียดทานเซรามิกเพิ่มเติมบนพื้นผิวทั้ง 2 ด้านของดิสก์เบรก มวลใต้สปริงทั่วทั้ง 4 มุม จึงลดลงได้มากถึง 34 กก.
แม้จะมีความร้อนสูงที่เกิดจากเซสชันการทำงานในโหมดแทร็กและการทดสอบได้มากกว่า 2 เท่า ของข้อกำหนดตามมาตรฐาน AMS (รถยนต์สปอร์ต) เค้าโครงแบบไขว้ 8 ลูกสูบ อันเป็นเอกลักษณ์จะช่วยปรับการไหลเวียนอากาศของแผ่นแรงดันและความทนทานต่อการซีดจางได้ล้ำหน้ากว่ารถสปอร์ตหลายรุ่น
สำหรับพื้นผิว ตัวเลือกสีพิเศษของ SV ช่วยให้สีคาลิปเปอร์เบรกกลมกลืนกับพื้นผิวภายนอกส่วนที่เหลือของคุณได้อย่างสมบูรณ์แบบ ผลลัพธ์คือระบบที่ดูเป็นไดนามิกได้มากเท่าที่รู้สึก
RANGE ROVER ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา
สัมผัสกับประสิทธิภาพสุดพิเศษเฉพาะ SV เท่านั้น
เอกลักษณ์ของ Range Rover Sport SV อยู่ที่การใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4.4 ลิตร V8 MHEV ที่ให้กำลัง 635 แรงม้า แรงบิด 800 นิวตันเมตร และอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.6 วินาที* และในขณะเดียวกันก็กลายเป็นเครื่องยนต์ V8 Range Rover ที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ด้วยความช่วยเหลือจากเทอร์โบชาร์จเจอร์คู่แบบเลื่อนคู่ขนานเพื่อการตอบสนองพละกำลังและเพิ่มความเร็วตลอดช่วงรอบเครื่องยนต์ จึงมั่นใจได้ว่า Range Rover Sport SV จะมีสมรรถนะในการขับขี่ที่เพิ่มขึ้น มีพละกำลังสูงสุด และมีประสิทธิภาพที่เหนือกว่า V8 Range Rover รุ่นก่อนหน้าอย่างแน่นอน
ในกระบอกสูบแต่ละอันใช้เทคโนโลยีการเคลือบด้วยสเปรย์ซึ่งเป็นโลหะแบบพ่นที่บางมาก แทนที่การรองด้วยเหล็กตามปกติทั่วไป วิธีนี้จะช่วยลดน้ำหนักและแรงเสียดทาน ในขณะที่ปรับปรุงประสิทธิภาพการถ่ายเทความร้อนและการกักเก็บความร้อนได้ดียิ่งขึ้น ท่อไอดีแปรผันของระบบ Valvetronic และระบบการทำงานของวาล์ว VANOS 2 เท่า ช่วยเสริมการทำงานของลูกเบี้ยวเพื่อประสิทธิภาพในการสันดาปที่เหมาะสมที่สุด
ในโหมดการออกตัวแบบไดนามิก มีการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบ MHEV โดยความช่วยเหลือทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อตอบสนองการเร่งความเร็วของยานยนต์ได้ดีที่สุด
วิศวกรรมเสียงของ Range Rover SV ที่ยิ่งขับยิ่งไพเราะ ระบบการปล่อยควันเสียแบบแอ็กทีฟมีวาล์วควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์แบบ 2 ขั้นตอน เพื่อส่งมอบจังหวะเสียงที่เบาลงเมื่อเปิดลิ้นเร่งได้ตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
เมื่อเปิดใช้งานโหมด SV แผนที่จะเปลี่ยนเป็นการตั้งค่าที่เน้นประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้วาล์วปล่อยควันเสียเปิดและทำการเปิดบ่อยขึ้น ด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้นและการไหลเวียนของอากาศที่ดีขึ้นและต่อเนื่องมากขึ้นของเครื่องยนต์ ความชัดเจนและคมกริบของเอฟเฟกต์โรงละครเต็มรูปแบบของ SV จะยิ่งก้องกังวาน
ที่สุดแห่งระบบเสียงที่สมจริง
สัมผัสได้ถึงความลื่นไหลของบทเพลง ด้วยช่วงเสียงที่กว้างกว่าลำโพงทั่วไปจนสัมผัสได้ เบาะหน้า SV Body and Soul ที่ขับเคลื่อนด้วย SUBPAC™ จะแปลงเสียงให้เป็นเสียงเบสที่หนักแน่นและละเอียดยิ่งขึ้น
โปรดิวเซอร์เพลงมืออาชีพและนักออกแบบเสียงทั่วโลกต่างนิยมใช้เทคโนโลยีไวโบรแทคไทล์ของ SUBPAC™ ที่ผสมผสานซอฟต์แวร์ปรับแต่งปัญญาประดิษฐ์เข้ากับเครื่องขยายเสียงระบบสัมผัส 2 ตัวและทรานสดิวเซอร์ในตัวอีก 4 ตัว
เสริมด้วยระบบเสียง Meridian อันเป็นเอกลักษณ์จากลำโพง 29 ตัว นี่คือการปฏิวัติเครื่องเสียงรถยนต์และเปลี่ยนกระบวนทัศน์ประสบการณ์การฟังเพลงของคุณได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ด้วยโหมดสุขภาพถึง 6 โหมด ตั้งแต่ 'สงบ' ไปจนถึง 'เติมพลัง' การทดสอบไบโอเมตริกแสดงให้เห็นว่าเบาะนั่งแบบ Body and Soul มีประโยชน์ต่อผู้โดยสารอย่างเห็นได้ชัด ทั้งยังช่วยลดความเครียดและเพิ่มสมาธิได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
เบาะนั่งแบบ SV Body and Soul ยังรองรับระบบแจ้งเตือนความปลอดภัยที่ใช้งานง่าย จึงมอบประสบการณ์การใช้สื่อส่วนบุคคลที่น่าดื่มด่ำที่สุดในทุกๆ การเดินทาง
สำรวจเพิ่มเติม
*แรงบิดสูงสุด 800 นิวตันเมตรและอัตราเร่ง 0-100 ใน 3.6 วินาที เมื่อใช้เครื่องยนต์แบบผสมผสานและอุปกรณ์การแสดงผล MHEV โหมดการออกตัวแบบไดนามิก ล้อคาร์บอน และเบรก